วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2560

🌷วิปัสสนาในชีวิต


  • มีหนทาง สำหรับผู้มีปัญญา ซึ่งพิจารณาตามอุปนิสัย ก็เข้านิพพานได้ โดยที่ยังทำงานเลี้ยงชีพในชีวิตประจำวันเป็นปกติ
1.อนิมิตตนิพพาน หนักไปทางผู้เห็นอนิจจัง คือความไม่เที่ยง
ไม่มีอะไรเป็นที่กำหนดได้เพราะมันหมุนเวียนไปเรื่อยๆ  จนเบื่อหน่ายคลายความกำหนัดได้

2.อัปปณิหิตนิพพาน หนักไปทางทุกขัง  คือพวกที่ทุกข์มากๆ หันไปทางไหน พบแต่ทุกข์ ไม่มีอะไรให้ตั้งเกาะ ก็เบื่อหน่าย คลายกำหนัดได้

3.สุญญตานิพพาน นี่คือพวกหนักไปทางอนัตตา  เห็นอะไรๆก็ไม่ควรยึดถือว่าเป็นตัวตน ว่าเป็นของตน.เข้าถึงนิพพานตัวนี้ จะยึดความว่างเป็นหลัก

อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา นี้สำคัญ เห็นบ่อยๆ 
ซาบซึ้งมากๆ ทำให้พลิกจิตเป็นพระอรหันต์ได้

3 หนทางแห่งทางนั้น


*เบื่อที่ ซ้ำซาก
*เบื่อที่ ทุกข์เรื่อย
*เบื่อที่ ยึดติด
.........


พิจารณากับชีวิตประจำวันกันนี่แหละ!!!!

วันจันทร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2560

🌷พระพุทธเจ้า3มิติ


ทางมหายานนั้น 
พระพุทธเจ้ามีอยู่3มิติ
กายเนื้อ เรียกว่า นิรมาณกาย
กายธรรม เรียกว่า ธรรมกาย(ธรรมะ) 
คือเรื่องของความจริงตามธรรมชาติ

กายทิพย์เรียกว่า สัมโภคกาย 
คือสัมพันธ์กับจิตวิญญานของพระพุทธเจ้า

การปรากฏของพระศากยะมุนีพุทธเจ้า
เป็นแค่อุบายธรรมที่เกี่ยวเนื่องปัญญาบารมี 
ความจริงแล้วพระชนม์ชีพพระองค์เป็นนิรันดร์
ดำรงอยู่ชั่วกัปป์เพราะธรรมกายคือแก่นสาร

ธรรมกายมิได้หมายถึงแค่คำสั่งสอน 
แต่หมายถึง พุทธคุณที่ซึมซ่านแทรกซึม
ในทุกสรรพสิ่งทั้งในธรรมชาติและจิตมนุษย์

และทรงทำหน้าที่ผ่านนิรมาณกายและสัมโภคกาย 
ในภัทรกัปของเราดังนี้

พระไวโรจนะพุทธเจ้า
สัมพันธ์กับกายเนื้อ 
คือพระกกุสันธะพุทธเจ้า(องค์ที่1)

พระอักโษภยะพุทธเจ้า
สัมพันธ์กับกายเนื้อ
พระโกนาคมนะพุทธเจ้า

พระรัตนะสัมภวะพุทธเจ้า
สัมพันธ์กับกายเนื้อ
พระกัสสปะพุทธเจ้า

พระอมิตภะพุทธเจ้า
สัมพันธ์กับกายเนื้อ
พระศากยะมุนีพุทธเจ้า

และ
องค์ที่ 5 องค์สุดท้าย คือ
พระอโมฆะสิทธิพุทธเจ้า
จะมีสัมพันธ์ทางกายเนื้อ
มาเป็นพระศรีอริยะเมตไตย
ในพุทธันดรหน้า

แท้จริงแล้ว 
พระศากยะมุนิพุทธเจ้า
ท่านแค่ใช้อุปายะสำแดงนิรมาณกายลงมาโปรด

พระองค์อยู่กับเราตลอดเวลา 
ในทุกสรรพสิ่ง

by สหัสภุชสกัสเนตรอวโลกิเตศวร มหาสัตว์มหาโพธิสัตว์

วันอาทิตย์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2560

🌷นามแห่งความว่างเปล่า


พระพุทธองค์ ไม่ทรงใช้คำว่า 
การรู้แจ้ง หรือ การหลุดพ้น

เพราะ คำเหล่านี้ ก่อให้เกิด ความมุ่งหมาย
ที่จะ ลุถึง เข้าถึง ไปถึง

มันสร้างอัตตาให้มีผู้แสวงหา

แต่พระองค์ ทรงใช้ คำว่า
"นิพพาน" ซึ่งแปลว่าดับ

ดับแล้วก็........ไม่มีเส้นชัย 
และไม่มี "อะไร" ให้ไปถึง!!

บุคคลที่จะเห็นธรรมชาติแห่งสัจจะได้
ต้องมองทุกอย่างด้วยจิตที่ปล่อยวาง

ขันธ์ 5 คือความว่าง
ปัญญาบารมีก็ว่าง

ไม่มีการฝึกฝนตนเองและไม่มีโพธิสัตว์
ที่ได้รับการฝึกฝน
ไม่มี "เป้าหมาย" ใดๆที่รออยู่ทั้งสิ้น
................

แม้จะช่วยผู้อื่นให้หลุดพ้น
แต่ความจริงคือ ไม่มีสัตว์ให้ช่วย
ไม่มีโพธิสัตว์มาช่วย
ไม่มีแม้กระทั่งความหลุดพ้น
 จงมองทุกอย่างว่างหมด
ไม่เช่นนั้น ก็จะสร้างทวิภาวะ
ระหว่างตนกับผู้อื่น ระหว่างจิตกับธรรม
..............

เมื่อหยั่งรู้ความว่าง
และข้ามพ้นทวิภาวะ(การแบ่งแยก/ของคู่)ได้

เมื่อนั้นการใช้ชีวิตของผู้รู้แจ้ง
ย่อมกลมกลืนกับความจริงที่สมมุติ
อย่างเป็นสุขด้วยจิตกรุณา

สภาพจิตใจย่อมเป็นโพธิสัตว์โดยปริยาย
หยั่งเห็นสุญญตาแล้ว ก็ไม่มีตัวตน
หรือแก่นสารใดๆให้ยึดถืออีก

โอม มณี ปัทเม หุม🌷🌷🌷

🌷บุญกุศล ที่แท้จริง


บุญ กุศล ที่แท้จริงและถึงที่สุดนั้น
คือการทำหน้าที่ของตน ที่มีต่อโลกให้ครบถ้วน

การทำบุญสูงสุด คือ 
ทำชีวิตให้เป็นประโยชน์ 
ถูกต้องตามหน้าที่ของตน

มีหน้าที่อะไร ทำลงไป
เพื่อให้โลกนี้มันครบถ้วน บริบูรณ์
ด้วยสิ่งที่โลก.....ควรจะมี!!!

ทุกหน้าที่ ทุกการงาน 
ถือว่าจำเป็นต่อโลก ทุกอาชีพ
โลกนี้เป็นสมบัติของส่วนรวม

บาป ที่ร้ายแรงที่สุดนั้น 
คือการไม่ทำ"หน้าที่แห่งตน"

#อรุณสวัสดิ์ ลูกๆทุกคน 
จงทำให้เช้านี้ 
เป็นอีกวันที่มีคุณค่าทั้งประโยชน์ตน 
และประโยชน์ผู้อื่น#

🌷หัวใจพระโพธิสัตว์ สุทธิ เมตตา ปัญญา ขันติ


หัวใจแห่งผู้บำเพ็ญโพธิสัตว์
ต้องยิ่งใหญ่ เสมอ          
ถ้าคุณคิดจะช่วยสรรพชีวิตโดยทั่วไม่ประมาณ...
คุณจะต้องเกิดโดยไม่ประมาณ

ถ้าคุณต้องการสิ่งมีคุณค่าสูงสุดของหัวใจในการบำเพ็ญ
คุณต้องสละสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุดจนหมดหัวใจ

ถ้าคุณปรารถนาให้สรรพชีวิตพ้นทุกข์
คุณจะต้องเรียนรู้ความทุกข์เหลือคณานับ

ถ้าคุณปรารถนาดีเพื่อชี้ทาง
คุณต้องเรียนรู้ อบรมบ่มเพาะเชี่ยวชาญ
โดยไม่ประมาณแห่งทางนั้น

คนอื่นล้มเหลวหนึ่ง 
คุณต้องล้มเหลวนับไม่ถ้วน

คนอื่นอดทนหนึ่ง 
คุณต้องอดทนไม่ประมาณ

คนอื่นเพียรหนึ่ง 
คุณต้องเพียรนับไม่ถ้วน

คนอื่นท้อแท้หนึ่ง 
คุณต้องท้อแท้แล้วท้อแท้อีกไม่ประมาณ

คนอื่นคิดถึงอนาคตหนึ่ง
คุณแทบไม่ต้องคิดถึงอนาคตที่นับไม่ถ้วน

คนอื่นถนอมชีวิตเค้าให้งดงาม 
คุณกลับทนุถนอมทุกสรรพสิ่ง

คนอื่นมีน้ำใจงามเพียงหนึ่ง 
คุณกลับมีน้ำใจงามดุจสายฝนรดชุ่มฉ่ำให้ผืนแผ่นดิน

อันพระผู้ผู้สร้างที่ยิ่งใหญเพื่อเป็นไปในสิ่งบริสุทธิ์คุณ

ล้วนเกิดมาจากมหาเมตตากรุณา
จึงต้องอบรมบ่มเพาะปัญญาให้งดงาม
และหัวใจต้องยิ่งใหญ่เสมอ

🌷โอวาทจากองค์อวโล



ดวงจิตของผู้มีปนิธาน หรือลูกหลานอั้วะ 
มากมายนักที่มาสู่โลกใบนี้ แล้วถูกวางยาโดยกิเลส
และเพราะวิปลาสสัญญานำมาจุติ 
จึงทำให้หลงลืมในปนิธาน 
ที่เคยเป็นจุดมุ่งหมายหลัก
บางดวงจิตได้ทำหน้าที่ ฉุดช่วยเวไนยตามบารมีที่สั่งสม 
ก็ถูกวางยาด้วยชื่อเสียง ลาภสักการะ หมด
ราคะ โทสะ โมหะ ความโลภ ความหลง 
ล้วนมาจากการถูกยัดเยียดโดยผู้อื่น และสังคมสิ่งรอบข้าง
ถ้าจิตไม่เข้มแข็งพอ ก็จะถูกผลักตกลงสู่วิถีปุถุชน
สุดท้าย จากพระโพธิสัตว์ที่ลงมาบำเพ็ญ
ก็กลายเป็นแค่ปุถุชน ที่แสวงหาอุดมคติ
"สอนคนอื่นได้ เราต้องทำเองได้ด้วย"
รู้จักตนเอง...ก็รู้จักทั้งโลก
และถ้าชนะตนเองได้..ลื้อก็จะชนะทุกสิ่งในโลกธาตุนี้

อย่าถอยหลัง เอาถาดทองคำไปแลกกับกะลาเลย
บารมี การบำเพ็ญ จิตวิญญานอันบริสุทธิ์
เอาแลกกับรสชาติเอร็ดอร่อยของโลก
ที่ล้วนฉาบทายาพิษ แค่มื้อสองมื้อ กันทำไม
กำลังใจปุถุชนย่อมอ่อนแอข้ามผ่านมันไม่ได้
แต่กำลังใจอันเข้มแข็งของเหล่าโพธิผู้มีปนิธาน 
ย่อมต้องแกร่งกว่าปุถุชนชีวิตคนเรามันสั้นนิดเดียว 
ความสนุกชั่วครู่ชั่วยามเป็นแค่สายฟ้าแลบ 
ไม่มีอะไรคงทนสักอย่าง 
เพราะมันกฏอันเฉียบขาดของโลก
นั่นคือกฏไตรลักษณ์
อั้วะรู้ อั้วะเข้าใจลูกๆ 
เพราะจิตลูกๆจะเข้มแข็งเหมือนอั้วะ 
ซึ่งเป็นพ่อย่อมเป็นไปไม่ได้
ผิดพลาดต่อสิ่งใด อ่อนแอต่อสิ่งใด 
ทบทวนแล้วมาพลิกจิตเริ่มต้นกันใหม่ ในปีใหม่นี้
เพราะหน้าที่แห่งความเป็นพ่อของอั้วะ 
คือให้อภัย ปกป้อง ฉุดดึง ประคอง 
และดูแลพวกลื้อ ลูกๆของอั้วะเสมอ
"ให้วันนี้ เป็นวันดี ของแสงอรุณแห่งจิตวิญญาน ที่งดงามเถิด"

🌷ธรรมจากพระอวโลกกิเตศวรมหาโพธิสัตว์





พระมหาโพธิสัตว์อวโลกิเตศาวร